หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

Preview : Samsung Galaxy Note 4 สานต่อนวัตกรรมที่ลงตัวของ ปากกาและหน้าจอ !!

Preview : Samsung Galaxy Note 4 สานต่อนวัตกรรมที่ลงตัวของ
ปากกาและหน้าจอ !!
สวัสดีเพื่อนๆ TechXcite ทุกท่านครับวันนี้ผมมีข่าว Samsung Galaxy มาฝากเป็นการพรีวิวสมาร์ทโฟนใหม่ๆกันอีกเช่นเคยวันนี้จะพรีวิว แต่จะเป็นรุ่นไหนนั้นมาติดตามกันเลย เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาทางSamsung ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงตัวใหม่จากซีรี่ส์ Galaxy Note อย่าง Galaxy Note 4 เป็นที่เรียบร้อย โดยรอบนี้ก็มีการอัพเกรดจากรุ่นก่อนอย่าง Galaxy Note 3 มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหน้าจอ หน่วยประมวลผล กล้องถ่ายภาพ และจุดเด่นของซีรี่ส์นี้อย่างปากกา S-Pen และแน่นอนครับว่าสมาร์ทโฟนที่จะมาพรีวิวให้ชมกันวันนี้ก็คือ Samsung Galaxy Note 4 นั่นเอง ไปดูกันดีกว่าว่าจะน่าสนใจสักแค่ไหน :D
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าเช้าวันนี้ทาง Samsung ประเทศไทยได้จัดงาน Workshop ของ Samsung Galaxy Note 4 ขึ้นที่ Samsung Brand Shop สาขา Central Embassy อลังการใช้ได้ 
ภายในงานได้ทาง PM (Product Manager) จากเกาหลีมานำเสนอเกี่ยวกับฟีเจอร์และคุณสมบัติต่างๆแบบในงานเปิดตัวที่เปิดตัวในงาน Unpacked 2014 EP.2 เลย ตรงนี้คงไม่ขอพูดอะไรมากนะครับ เพราะรายละเอียดค่อนข้างจะคล้ายกัน ><
แรกสัมผัส Samsung Galaxy Note 4
หลังจากที่ได้ฟังการแนะนำฟีเจอร์คร่าวๆของ Galaxy Note 4 ไปแล้วทางทีมงานก็ได้ส่งตัวเครื่อง Galaxy Note 4 ตัวเป็นๆมาให้ลองจับกัน ความรู้สุกแรกต้องบอกเลยว่าวัสดุและงานประกอบดูเนียนขึ้น ด้วยวัสดุกรอบเครื่องที่ใช้วัสดุแบบโลหะแล้ว (ในที่สุด TT) การจับถือก็ถือว่าทำได้ดี อารมณ์และการจับดีขึ้นกว่าตอน Galaxy Note 3พอสมควรเลยล่ะ ขนาดก็ถือว่าไม่ได้ใหญ่เทอะทะ ถ้าเทียบแล้วคงไม่ต่างกับ Galaxy Note 3 มากครับ :)
หน้าจอบน Galaxy Note 4 นั้นมีการอัพเกรดความละเอียดขึ้นมาจาก Galaxy Note 3 ให้อยู่ที่ Quad-HD (ความละเอียด 2560x1440 พิกเซล) แต่ขนาดหน้าจอมีความละเอียดเท่ากันที่ 5.7 นิ้ว ซึ่งเรื่องการแสดงผล สีสันถือว่าสวยงามตามแบบฉบับของ Super Amoled แถมบวกกับตัว UI แบบใหม่ที่มีรูปแบบที่สะอาดตาขึ้นด้วย ทำให้ยิ่งดูสวยขึ้นไปอีกนะเนี่ย *0*
ดีไซน์โดยรวมก็ถือว่ายังคล้ายๆกับรุ่นก่อนๆอยู่พอสมควร ซึ่งด้านหน้าผมคิดว่าเหมือนเอา Galaxy Note 3 มาผสมกับ Galaxy Note 2 มากๆเลย ด้วยหน้าจอของรุ่นนี้จะเป็นแบบ 2.5D หรือว่าจะมีความโค้งมนมากขึ้นกว่ารุ่นก่อนอย่าง Galaxy Note 3 (แต่ยังไม่โค้งเท่า Galaxy Note 2 นะ) ทำให้การสัมผัสของหน้าจอเนียนมากขึ้นกว่าเดิม พอสมควรเลยครับ
ด้านหลังของตัวเครื่องก็มีการดีไซน์คล้ายๆเอา Galaxy S5 มาผสมกับ Galaxy Note 3 คือมีเลนส์กล้องขนาด 16 ล้านพิกเซล ไฟแฟลชและตัววัดอัตราการเต้นของหัวใจ (Heart Rate Sensor) ด้วย ส่วนวัสดุก็ยังเป็น Faux Leather (หนังเทียม) เหมือนเดิมครับ
มาดูรอบๆเครื่องกันบ้างด้วยวัสดุที่เป็นโลหะจริงๆ ไม่ใช่โครเมี่ยมเคลือบแบบรุ่นก่อนๆแล้วทำให้ตัวเครื่องดูหรูหราขึ้นมามากเลย ส่วนตำแหน่งของปุ่มต่างๆก็ยังอยู่ที่เดิม อาทิ ด้านบนของตัวเครื่องมีช่องหูฟังมาตรฐาน 3.5 มม. และพอร์ท Infared สำหรบใช้เป็นรีโมท , ด้านขวามือก็จะมีปุ่ม Power และด้านซ้ายมือมีปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงครับ
ส่วนด้านล่างมีการเปลี่ยนแปลงจาก Galaxy Note 3 คือพอร์ท USB เปลี่ยนกลับมาใช้เป็น Micro-USB 2.0 แล้ว (บน Galaxy Note 3 และ Galaxy S5 ใช้ USB 3.0)
ปุ่ม Home บน Galaxy Note 4 นั้นก็จะมาพร้อมกับที่สแกนนิ้วมือ (Fingerprint Scanner) แบบเดียวกับบน Galaxy S5 , Galaxy Tab S เช่นกันครับ
และด้านหลังก็มีตัว Heart Rate Sensor ตัววัออัตราการเต้นของหัวใจเหมือน Galaxy S5 เช่นกันครับ
สำหรับสเปคของ Galaxy Note 4 นั้น ทาง Samsung ก็ยืนยันแล้วว่าจะเอาตัวชิปเซ็ต Exynos 5433 เข้ามาขาย โดยชิปตันี้จะเป็นชิปเซ็ตแบบ Octa-core 64-Bit (Quad core Cortex-A57 1.9 GHz + Quad core Cortex -A53 1.3 GHz) และหน่วยประมวลผลกราฟิก Mali-T760 GPU แรม 3 GB หน่วยความจำภายใน 32 GB (เพิ่มได้สูงสุด 128 GB) รองรับการเชื่อมต่อ 4G LTE Cat.4
แน่นอนว่าเป็นจุดเด่นหลักๆของสมาร์ทโฟนจาก Samsung ไปแล้วสำหรับเรื่องของการถอดฝาหลังได้ และสามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้เอง โดยบน Galaxy Note 4 นั้นมีความจุของแบตเตอรี่อยู่ที่ 3,220 mAh (เพิ่มจาก Note 3 มา 20 mAh) แต่ทาง Samsung บอกว่ารุ่นนี้ถูกปรับแต่งมาอย่างดีให้สามารถใช้งานแบตเตอรี่ได้อึดขึ้นกว่าเดิมถึง 7.5 เปอร์เซ็นด้วย และยังมีความสามารถด้านการชาร์จไฟ อย่าง Fast Charge ที่สามารถชาร์จจาก 0-50% ในเวลาเพียง 30 นาทีอีกด้วย ^^
Galaxy Note 4 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการตัวล่าสุด (ในท้องตลาด) อย่าง Android 4.4.4 Kitkat ครอบด้วย Touchwiz UI เวอร์ชั่นล่าสุดเช่นกัน หน้าตา UI ต่างๆก็ยังไม่ค่อยแตกต่างจากตอน Galaxy S5 มากนัก แต่ก็มีอยู่บางจุดที่เปลี่ยนไปบ้าง อาทิ พวก Widget ต่างๆจะเป็นแบบโปร่งใสให้เราได้เห็น Wallpaper ชัดมากขึ้น ไม่ไปบดบังตัว Wallpaper มากนัก หรือหน้า Recent Apps ที่ถูกปรับหน้าใหม่เป็น แบบ Card (คล้ายๆกับบน Android L) เรียงสวยงามมากขึ้น
และความสามารถอย่าง Popup Windows บน Galaxy Note 4 ก็มีการปรับเพิ่มให้ใช้งานง่ายขึ้น เพียงแค่เราลากนิ้ว(หรือปากกาก็ได้)จากมุมขวาบน ลงมาก็สามารถย่อหน้าตาลงมาได้แล้ว (อารมณ์เหมือนกด Mimimize บนคอมเลย) สะดวกกว่าตอน Note 3 ที่เราต้องกดปุ่มตรง S-Pen แล้วเลือก Pen Windows เยอะเลยล่ะผมว่า 
มาถึงจุดเด่นบนสมาร์ทโฟนตระกูล Galaxy Note กันบ้าง Galaxy Note 4 มาพร้อมกับปากกา S-Pen ตัวใหม่ที่จะมาพร้อมกับการตอบสนองแรงกดได้มากกว่าเดิมถึง 2 เท่า (S-Pen บน Note 4 รับแรงกดได้ 2048 ส่วน Note 3 ได้ 1024)
และความสามารถใหม่ๆเพียบ อย่าง Smart Select ที่จะช่วยให้คุณได้เก็บข้อมูล รูปภาพ หรืออะไรที่สนใจลง Scrapbook ได้ง่ายดายมากขึ้น หรือว่าความสามารถ Pen Mouse ที่เราสามารถใช้ตัว S-Pen เหมือนกับเมาส์บนคอมพิวเตอร์ได้เลย ด้วยการกดปุ่มบนตัว S-Pen
และความสามารถใหม่ๆบน S-Note ซึ่งด้วยปากกา S-Pen ที่รอวรับแรงกดมากขึ้น ตัวแอพ S-Note ก็มีหัวปากกาแบบตัดมาเพิ่มให้การเขียน หรือจะวาดรูปก็สวยขึ้นอีกเยอะ มีฟีเจอร์ Photo Note ให้เราได้สามารถถ่ายภาพและตัวแอพ S-Note จะแปลงตัวภาพให้เป็นตัวอักษรได้ด้วย อันนี้เจ๋งมากเลยล่ะ ><

เรื่องกล้องถ่ายภาพบน Galaxy Note 4
เรื่องกล้องของ Galaxy Note 4 นั้นถูกอัพเกรดขึ้นจากรุ่นก่อนๆเยอะเลย โดยกล้องหลังให้ความละเอียดมาที่ 16 ล้านพิกเซล และทีเด็ดคือมีระบบ OIS กันสั่นมาให้แล้ด้วย (น้ำตาจะไหลจริงๆ TT) ฟีเจอร์ก็มาพร้อมกับความสามารถทั้งหลายจาก Galaxy S5 เพียบ ไม่ว่าจะเป็น Selective Focus , Real-Time HDR และสามารถบันทึกวีดีโอได้สูงสุดที่ 4K UHD เลยด้วยนะ *0*
ในส่วนของกล้องหน้าก็มีการอัพเกรดขึ้นมาไม่แพ้กัน กล้องหน้าของ Galaxy Note 4 มีความละเอียดอยู่ที่ 3.7 ล้านพิกเซล และมีมุมกว้าง 90 องศาซะด้วย ซึ่งถ้ายังกว้างไม่พอยังมีโหมด Wide Selfie ช่วยให้สามารถถ่ายภาพมุมกว้างได้มากสุดขึ้น 120 องศาเลยล่ะ
สำหรับอุปกรณ์เสริมก็จะมีเป็นพวก Flip Case ใส่แล้วหน้าตาก็จะประมาณนี้ล่ะครับ 555
สรุปหลังจากลองสัมผัสกันคร่าวๆ
  • หน้าจอ Super-Amoled Quad-HD ให้สีสันที่สวยสด
  • วัสดุและงานประกอบที่ดีด้วยวัสดุกรอบเครื่องแบบโลหะ ความรู้สึกในการจับถือดีขึ้นมาก
  • S-Pen ตัวใหม่ที่มีการอัพเกรดขึ้นจากตัวเก่าไม่น้อย
  • กล้องหลังและกล้องหน้ามีการอัพเกรดขึ้นแบบเห็นได้ชัด มีระบบ OIS แล้ว กล้องหน้ามุมกว้างถ่าย Selfie เป็นกลุ่มได้ดี
  • ตัว UI ทำออกมาได้ลื่นไหลเหมือนเคย แถมรอบน้ยังดูสะอาดตามากขึ้นด้วย Widget แบบ โปร่งใสด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น